วัดอยุธยา สายมู

วัดที่อยุธยา วัดในอยุธยา สายมูห้ามพลาดเด็ดขาด

ทุกวันนี้ วัดอยุธยา สายมู คนไทยหลายคนเชื่อเรื่องหมอดู และนิยมไปขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นพระหรือเครื่องรางต่าง ๆ วันนี้เราจะพาไปเที่ยวเมืองโบราณอยุธยาที่ห้ามพลาดสำหรับสายมู จะมาแนะนำ วัด ที่นอกจากจะได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้วยังสามารถขอพรได้อีกด้วย ไปดูกันว่าที่ไหนบ้างจะได้ไม่เสียเวลา

วิหารมงคลบพิตรเป็นพระอารามหลวงสมัย อยุธยา ที่มีประวัติยาวนาน เป็นวัดที่อยู่ติดกับวัดพระศรีสรรเพชญ์อีกด้วย เพียงไม่กี่ก้าวเพื่อไปที่นั่น สถานที่แห่งนี้ผู้คนส่วนใหญ่ต้องการไปสักการะพระมงคลบพิตร พร้อมคำอธิษฐานเพื่อสุขภาพที่ดีและชีวิตที่รุ่งเรือง

วัดอยุธยา สายมู

หลวงพ่อโต หรือ พระพุทธไตรรัตนนายก - วัดอยุธยา สายมู

หลวงพ่อโถ หรือ พระพุทธไตรรัตนนายก พระพุทธรูป ศิลปะอู่ทอง ยุคปลาย ประทับนั่งขัดสมาธิราบปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 14.20 เมตร สูง 19.20 เมตร วัสดุปูนปั้นปิดทองหลวงพ่อ โถ หรือ พระพุทธไตรรัตนนายก หรือ พระพุทธไตรรัตนนายก หรือ พระใหญ่แห่งกรุงศรีอยุธยาองค์นี้ นับเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองอยุธยามาแต่ครั้งสร้างกรุงศรีอยุธยา

พระราชพงศาวดารกรุงเก่าฉบับหลวงปราสาทอักษรกล่าวว่ากรุงเก่าสร้างเมื่อ พ.ศ. 1325 หรือที่รามาธิบดีที่ 1 สร้างกรุงศรีอยุธยาได้ 26 ปี อยุธยาก็ล่มสลาย ขณะที่กำลังจะทำนั้นในคำให้การของชาวกรุงเก่ามีเขียนไว้ว่าพระใหญ่ที่วัดพะนังโทนมีน้ำไหลเข้าตาเป็นที่อัศจรรย์ยิ่งนัก หลวงพ่อโถ หรือที่รู้จักในชื่อ ซางโปกง เป็นหนึ่งในพระที่ชาวจีนนับถือมากที่สุดและมีชาวจีนหลายพันคนมาเยี่ยมชมทุกปี ไม่ใช่แค่คนไทยเท่านั้น

พระอุโบสถวัดพนัญเชิงมีพระพุทธรูปสำคัญ 3 องค์ คือ พระพุทธรูปทองคำ พระพุทธรูปปูนและพระนาคปรก พระพุทธรูปทองคำเป็นพระพุทธรูปสมัยสุโขทัย หน้าตักกว้าง 3 ศอก สูง 4 ศอก หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ ตรงกลางเป็นพระพุทธรูปปูนปั้นสมัยอยุธยา มีเส้นรอบวง 4 ศอก สูง 5 ศอก และพระพุทธรูปปางนาคปรกสุโขทัย กว้าง 3 ศอก สูง 5 ศอก มีโสกห้าตัว และเดิมทีทั้งคู่ทำจากปูนปั้น 

ดังนั้นพวกเขาจึงเกิดเป็นเพลโตและปรานากา น่าจะเป็นก่อนที่กรุงศรีอยุธยาจะถูกข้าศึกโจมตีจนมีสภาพเหมือนพระพุทธรูปปูนปั้นเคลือบปูนทั่วไป ครั้งนั้นผู้คนเกรงว่าพระพุทธรูปทองคำและพระพุทธรูปนาคนี้จะถูกขโมยหรือเผาเพื่อขโมยทองคำ จึงทาด้วยปูน เคลือบ ปั้นในขณะที่ปูนยังแห้งอยู่ ,ฉันทำลวดลายและลายเกศา. ปั้นหน้าผมให้เข้าใจว่าไม่ใช่พระทองหรือนาค ต่อมากลายเป็นพระทองคำเพราะปูนลอกออกแล้วข้างในเป็นทองคำ ดังนั้นปูนจะค่อยๆลอกออก จึงเห็นว่าเป็นพระพุทธรูปทองคำทั้งองค์ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ

ตำนานพระนางสร้อยดอกหมาก

ตำนานรัก ตำนานสร้างวัด… “เจ้าสายน้ำผึ้ง ~ แม่นางสร้อยดอกหมาก”
ตำนานรัก “เจ้าชายสายน้ำผึ้งกับพระนางทอดกุมาร” เป็นตำนานการสร้างวัดพนัญเชิงวรวิหาร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หรือ วัดพระเจ้าปีนัง พระนคร มีวัดที่เป็นที่เคารพของทั้งชาวไทยและชาวจีน เชื่อว่ารวมถึงชาวต่างชาติที่ไม่หยุดนิ่ง เจ้าแม่ซอยด็อค mac ของเขาสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้คนที่เคารพนับถือของเขาให้เป็นจริงในทุกวิถีทาง

“ตั้งแต่มาอยู่ที่วัดพนางชร มีคนมาขอพรกับเจ้าแม่สร้อยดอกหมากมากมายนับไม่ถ้วน แต่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือเรื่องความรักและเรื่องความอุดมสมบูรณ์ รวมถึงเรื่องชุดแต่งงานด้วย แต่ส่วนใหญ่จะเป็นประคำ รวมทั้งทองคำ หรือเจ้ากังวาลเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและเจ้าคณะวัดพนัญชร
ส่วนเรื่องราวความรักระหว่างเจ้าสายน้ำพุงกับพระนางสร้อยดอกหมากนั้น เจ้ากุ้งวาว กล่าวว่า เป็นเรื่องที่นานมาแล้ว มีเด็กหญิงคนหนึ่งเกิดที่เมืองชางหมาก และเธอให้ชื่อของเธอว่า ‘นาย. ซอยดักมัก’

เมื่อสร้อยดอกหมากโตขึ้นมีรูปโฉมงดงามมาก กษัตริย์จีนองค์หนึ่งทรงบัญชาโหรให้ทำนายอนาคตว่าพระนางสร้อยดอกหมากเหมาะสมจะเป็นกษัตริย์ครองเมืองใด โหราจารย์มองมาที่ฉันแล้วพูดว่า: คู่ของเธอคือพระเจ้ากรุงไทย ผู้มีบุญมากในทิศพายัพ กษัตริย์เมืองจีนได้สดับคำพยากรณ์ของโหราจารย์ ทรงพอพระทัยเป็นอันมาก ฝ่ายกรุงไทยเวลานั้นการปกครองประเทศนี้ว่างลงไม่มีรัชทายาทสืบราชสมบัติ ต่อจากนั้นพระเถระชั้นผู้ใหญ่และพราหมณ์ผู้มีฌานทั้งปวงได้ทำพิธีเสี่ยงเรือสุวรรณหงษ์เอกชัยที่นั่น เพื่อหาผู้มีบุญวาสนามาเป็นข้าของแผ่นดิน

เมื่อเรือมาถึงชายฝั่งที่คาวบอยกำลังเล่นอยู่ เรือสุวรรณหงษ์เอกชัยหยุด ไม่มีการเคลื่อนไหวอีกต่อไป ไม่ว่าฝีพายจะพยายามแค่ไหน เรือก็ไม่ขยับ ท่านอาจารย์เห็นแล้ว ผมอึ้งและตะลึง ดังนั้นเขาจึงเข้าร่วมกลุ่มเด็กเลี้ยงวัวที่กำลังเล่นอยู่ เขาได้พบกับเด็กชายที่ดูฉลาดและพูดกับเขาจากด้านข้าง ภิกษุทั้งหลายคิดว่า “ชโย เด็กคนนี้ต้องเป็นคนมีบุญมาก ท่าทางแตกต่างจากเด็กคนอื่นอย่างเห็นได้ชัด ควรจะเจรจากับเราซึ่งเป็นผู้ใหญ่กว่า” เจ้าสัวที่มีความคิดอัญเชิญเด็กชายเป็นกษัตริย์ของไทย
วัดอยุธยา สายมู

ศาลาแห่งทวยเทพศาสตร์แห่งจีน มหาเฮง ปังๆรวยๆ

และอีกจุดที่ไม่ควรพลาดคือรูปปั้นเทพเจ้าของจีน เช่น Senju Kannon, Guan Yu, Ui Momo และ Taisui Ea ซึ่งต้องมาที่นี่เพื่อขอพร ให้จบในที่เดียวกัน